Read more: http://nanfufu.blogspot.com/2012/05/blog-post_3639.html#ixzz46BxujGXc

วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2559

“ก้าวไปให้ถึงรักแท้”

หากความรักทุกชนิดขาด “สติ” ไม่ว่าความรักชนิดใด ๆ ก็มีอันตรายแฝงอยู่ไม่มากก็น้อย

“ก้าวไปให้ถึงรักแท้”

     “ความรัก” มีหลายรูปแบบ เช่น  รักตัวกลังตาย รักใคร่ปรารถนา รักเมตตาอารี รักมีแต่ให้
      รักตัวกลัวตาย เป็นความรักอิงสัญชาตญาณการเอาตัวรอดข้อดีคือทำให้มนุษย์รู้จักรักษาชีวิตรอด แต่ข้อเสียก็คือความรักชนิดนี้หากมีมากเกินไป ก็จะกลายเป็นความเห็นแก่ตัว
      รักใคร่ปรารถนา เป็นความรักอิงสัญชาตญาณการดำรงเผ่าพันธุ์ ข้อดีคือ ทำให้มนุษย์ดำรงคงเผ่าพันธุ์สืบต่อความเป็นมนุษยชาติกันมาอย่างต่อเนื่อง ข้อเสียคือหากมีมากเกินไป ก็จะกลายเป็นความมืดบอด หน้ามืดตามัย ล้างผลาญหาญชีวิต เหมือนพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖ ที่ว่า

                    “ความรักเหมือนโรค่า          บันดาลตาให้มืดมน
             ไม่ยินและไม่ยล                        อุปสรรคะใดใด
                     ความรักเหมือนโคถึก          กำลังคึกผิขังไว้
             ก็โลดจากคอกไป                      บ่ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
                     ถึงหากผูกไว้                    ก็ดึงไปด้วยกำลัง
             ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง                        บ่ หวนคิด ถึงเจ็บกาย”

      รักเมตตาอารี เป็นความรักอิงไมตรีจิตและสายเลือด มีอยู่ในหมู่ญาติวงศ์พงศาและมิตรสหาย ข้อดี คือ ทำให้มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยด้วยไมตรีจิต แต่ข้อเสียก็คือ ทำให้คนใจแคบรักเฉพาะคนที่ตนห่วงหาอาทรฉันญาติฉันมิตรเท่านั้น ไม่อาจขาดความรักนั้นให้กว้างไกลไพศาลออกไปกว้างไกลทั่วทั้งโลก

      รักมีแต่ให้  เป็นความรักอิงปัญญาบริสุทธิ์ มีอยู่ในหมู่ผู้เปี่ยมปัญญา สามารถมองทะลุเปลือกผิวของความเป็นมนุษย์ เช่น มองข้ามชาติ ศาสนา เผ่า พันธุ์ พรรค วัฒนธรรม ต้นสังกัด ลัทธินิกาย ศาสนา รักมีแต่ให้ เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ไร้พรมแดนมองเห็นคน สัตว์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สรรพชีพสรรพสัตว์ ว่าเป็นเพื่อนร่วมโลกของตนด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

       ด้วยปัญญาที่หยั่งโยงถึงแก่นแท้ของสัจธรรมแห่งสรรพสิ่งเช่นนี้คนที่เปี่ยมด้วยรักแท้จึงมีแต่จะเป็นผู้ให้ ทำร้ายใครไม่ลง พลังแห่งความรักของเขา เป็นดั่งแสงเดือนแสงตะวันที่สาดโลมผืนโลกอย่างบริสุทธิ์ใจ โดยไม่เคยทวงถามถึงการตอบแทน

       คนที่มีความรักแท้เช่นนี้ จึงมีชีวิตที่เป็นผู้ให้อย่างสมบูรณ์ เช่น พระพุทธเจ้า พรอรหันต์ พระเยซู แม่ชีเทเรซา มหาตมะ คานธี หรือบุคคลผู้มีจิตโพธิสัตว์ที่เบิกบานกับการรับใช้เพื่อนมนุษย์ ตัวอย่างที่เห็นได้ในหมู่คนไทยยามเกิดภัยพิบัติที่พร้อมจิตพร้อมใจกันช่วยแบ่งเบาความทุกข์ยากของเพื่อนมนุษย์โดยไม่เคยทวงถามถึงผลตอบแทนเชิงผลประโยชน์แต่อย่างใดทั้งสิ้น รักมีแต่ให้ เป็นความรักแท้ที่บริสุทธิ์ เป็นความรักที่แสดงถึงวิวัฒนากรทางปัญญาขั้นสูงของมนุษย์ เป็นความรักที่เผยให้เห็นถึงจิตวิวัฒน์ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน

       ความรักเป็นทั้งสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ เป็นทั้งดัชนีวัดวิวัฒนาการทางปัญญาและอารมณ์ของมนุษย์ชาติ แต่ขณะเดียวกันหากความรักทุกชนิดขาด “สติ” ไม่ว่าความรักชนิดใด ๆ ก็มีอันตรายแฝงอยู่ไม่มากก็น้อย
ที่มา : หนังสือก้าวไปให้ถึงแท้
           ว. วชิรเมธี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น